สไตล์พ่อแม่ มีผลต่อพฤติกรรมลูก

  ผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษารูปแบบการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ที่ส่งผลให้เด็กเติบโตขึ้นมามีลักษณะต่างๆ บุคลิกนิสัยใจคอของคนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป ส่งผลต่อความคิด คำพูด การกระทำ ที่จะทำให้อยู่ในสังคมได้อย่างไม่มีปัญหา
  ดังนั้นเด็กจะมีบุคคลิกแบบไหนก็สามารถคาดเดาจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูของพ่อแม่ได้บางส่วน 

1. การเลี้ยงดูแบบช่างเอาใจ
  พ่อแม่แบบช่างเอาใจ เลี้ยงแบบตามใจลูก ให้ความใกล้ชิดสนิทสนม แต่ไม่ตั้งกฏเกณฑ์ใดๆ เลยขาดการควบคุมดูแลลูกในทางที่เหมาะสม ให้ได้ทุกอย่างที่ลูกต้องการ แทบจะไม่คาดหวังอะไรจากลูก ให้อิสระกับลูกจนเกินพอดี มีผลการศึกษาที่พบว่าเด็กที่พ่อแม่ตามใจ ให้ความใกล้ชิดแต่กลับมีพฤติกรรมชอบขโมยข้าวของทั้งที่มีพร้อมอยู่แล้ว ก็เพราะรู้สึกว่าอะไรก็ได้มาง่ายๆ ไปหมด มันน่าเบื่อชีวิตมันง่ายเกินไป พ่อแม่ที่เข้าข่ายเลี้ยงดูลูกลักษณะนี้มากที่สุด คือ พ่อแม่ที่เห็นลูกทำผิดก็ปล่อยไปเฉยๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้ พอเจออะไรที่ลูกทำลำบากก็เร่งช่วยเหลือทันที
  เด็กที่ถูกเลี้ยงมาในลักษณะแบบนี้พอต้องเข้าสังคมก็ทนกฏเกณฑ์ของสังคมไม่ได้ อยู่โรงเรียนก็รู้สึกรำคาญครูที่ชอบบังคับมากๆ จนอาจมีปัญหากับครู เพราะเคยได้ถูกเอาอกเอาใจ โตไปมักมีความรับผิดชอบต่ำ และทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ค่อยได้

2.การเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย
  การเลี้ยงดูสามัญประจำครวบครัวพที่พ่อแม่งานยุ่ง อาจให้ลูกอยู่กับตายายหรือพี่เลี้ยง อาจมีกฏบ้าง แต่ไม่ได้ควบคุมกฏนั้นด้วยตัวเอง เหมือนสอนผ่านๆ เวลาเจอหน้าลูกบ้างตามโอกาส เป็ฯการเลี้ยงดูที่ไม่อบอุ่น คล้ายกับพ่อแม่กลุ่ม Permissive type ช่างเอาใจอยู่บ้าง ในเรื่องการให้วัตถุภายนอกไม่ได้ขาด แต่ต่างตรงที่ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนม พอมีปัญหาเกี่ยวกับลูกขึ้นมา ก็มักโทษคนเลี้ยงไว้ก่อน ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวเองไม่รู้ หรือแม้แต่โยนความผิดไปมาให้ฝ่ายพ่อหรือแม่ จนหลายเป็นปัญหาทะเลาะกันเองระหว่างคู่สามี- ภรรยาต่อหน้าลูกไปเสียอีก การเลี้ยงดูแบบนี้ส่งผลเสียต่อพัฒนาการของลูกมากที่สุด 

  วัยรุ่นที่ถูกเลี้ยงดูในลักษณะนี้ จะรู้สึกขาดความอบอุ่น หากมีแฟนก็ติดแฟนจนหึงหวงจัด รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า หาเพื่อนยากหรือไม่มีเพื่อนเลย เพราะขาดทักษะการเข้าสังคม จนอาจกลายเป็นคนต่อต้านสังคมไปเลย และมักจะล้มเลวในการเรียนอีกด้วย

3. การเลี้ยงดูแบบเผด็จการ
  พ่อแม่เผด็จการ เลี้ยงลูกแบบควบคุมสูง ตั้งกฏเกณฑ์ให้ทุกอย่าง วางกรอบเป๊ะๆ พร้อมบทลงโทษชัดเจน แหกคอกเป็นเจ็บตัว 
 พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยวิธีเข้มงวดกวดขันมากจนเกินไป มักจะใช้การตำหนิบ่อย หรือถึงระเบิดอารมณ์ใส่เมื่อทำผิด พ่อแม่เผด็จการบางส่วน อาจเข้มงวดเพราะประสบการณ์ชีวิตที่ไม่สมหวังของตัวเอง ทำให้มาเข็ญเคี่ยวลูกอย่างเด็ดขาดแทน เวลาลูกถาม ก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ นอกจากคำตอบในทำนองว่า เพราะพ่อแม่สั่งให้ทำ เพราะเด็กต้องฟังผู้ใหญ่เท่านั้น พ่อแม่แบบนี้จะใส่ความคาดหวังไว้กับเด็กสูง แต่ไม่ให้ความใกล้ชิดสนิทสนม และขาดการสื่อสาร (เพราะพ่อแม่พูดฝ่ายเดียว)
 ลูกที่โตมาด้วยการเลี้ยงดูลักษณะนี้  มักว่านอนสอนง่าย แต่จะขาดทักษะทางสังคม รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า จะพูดอะไรหรือจะแย้งใครก็ทำไม่ได้สักอย่าง ไร้แรงจูงใจในการจะลงมือทำอะไรเข้าขั้นขาดความคิดสร้างสรรค์ รังแต่จะต้องทำตามผู้อื่นไปทั้งชีวิต หรือหากเจอสถานการณ์พลิกผันก็จะกลายเป็นคนก้าวร้าวไปเลย แต่ก็พบว่าวัยรุ่นที่อยู่ภายใต้การเลี้ยงดูจากพ่อแม่สไตล์นี้จะมีผลการเรียนสูงกว่าการเลี้ยงดูลูกแบบอื่นๆ

4.การเลี้ยงดูแบบมีเหตุผล
  พ่อแม่แบบมีเหตุผล บางตำราใช้คำว่า พ่อแม่แบบประชาธิไตย เป็นรูปแบบการเลี้ยงดูที่เหมาะสมให้ผลเชิงบวกับการพัฒนาของวัยรุ่น เป็นการเลี้ยงดูลูกด้วยความรักและความเข้าใจ พ่อแม่จะใช้อำนาจควบคุมลูกหลานอย่างมีเหตุผล โดยยังมีกฏเกณฑ์ให้ลูกชัดเจนเหมาะสม ไม่ปล่อยให้อิสระ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเผด็จการไม่ฟังอะไรเลย ยังคงมีการตั้งความคาดหวังกับลูกไว้สูง แต่ก็แบบที่มีเหตุผล แบบที่ยังเปิดโอกาสให้ลูกโต้แย้งได้
  วัยรุ่นที่ถูกเลี้ยงมาในลักษณะแบบนี้จะเห็นคุณค่าในตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเอง รักตัวเองมีความเคารพในพ่อแม่ และมักประสบความสำเร็จในการเรียนหรือในสิ่งที่สนใจ


  อย่างไรก็ตาม เรื่องการเลี้ยงดูจากพ่อแม่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกมีบุคคลิกแบบหนึ่งเท่านั้น ไม่มีการเลี้ยงดูแบบไหนที่ดีที่สุดหรือเลวร้ายที่สุด และยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่วัยรุ่นจะได้พบ เช่น จากที่โรงเรียน ไม่ได้หมายความว่าถูกเลี้ยงมาแบบปล่อยปละละเลย จะกลายเป็นคนเลวของสังคมไปในที่สุดเสมอไป ดังนั้นเมื่อเด็กเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เริ่มมีความคิดเป็นของตนเองมากขึ้น พ่อแม่ควบคุมจอมเผด็จการกลายไปเป็นพ่อแม่แบบมีเหตุผลมากขึ้น
  และนอกเหนือจากรูปแบบสไตล์การเลี้ยงดูของพ่อแม่แล้ว สิ่งสำคัญอีกข้อ คือ การเป็นแบบอย่างของพ่อแม่ แบบอย่างที่ไม่ดี ของผู้เลี้ยงดูพฤติกรรมเด็กด้วย เช่น ครอบครัวที่พ่อแม่ติดเหล้าจะส่งผลให้ลูกติดเหล้าได้ (แม้ว่าลูกจะรู้ว่าเหล้าไม่ดี แต่ลูกก็รู้สึกว่าไม่ผิดที่จะลิ้มลองหรือติดมัน เพราะผู้ใหญ่ใกล้ตัวก็ทำเป็นปกติ) และก็ยังมีการศึกษาอีกว่าพ่อแม่ที่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวให้ลูกเห็น ส่งผลด้านลบต่อการพัฒนาทางสติปัญญาของลูกด้วย

ขอบคุณ http://www.dek-d.com/loveroom/33148/

  
  

สไตล์พ่อแม่ มีผลต่อพฤติกรรมลูก สไตล์พ่อแม่ มีผลต่อพฤติกรรมลูก Reviewed by ข่าวพิเศษ on 21:16 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.